GODZILLA MINUS ONE MOVIE REVIEW

Godzilla Minus One Movie Review

Godzilla Minus One Movie Review

Blog Article

รีวิวหนัง Godzilla Minus One


Godzilla-Minus-One-Movie-Review

ข้อมูลหนัง


ประเภทหนัง: Action . Adventure . Drama . Horror .Sci-Fi


ผู้กำกับ: ทาคาชิ ยามาซากิ


นักเขียน: ทาคาชิ ยามาซากิ . อิชิโระ ฮอนดะ . ทาเคโอะ มุราตะ


นักแสดงนำ: มินามิ ฮามาเบะ .รีวโนซูเกะ คามิกิ . ยามาดะ ยูคิ .ซากูระ อันโด


 

เรื่องย่อ


Godzilla Minus One เล่าย้อนไปถึงเหตุกาณ์ในช่วงปี 1945 ปีที่ญี่ปุ่นต้องยอมพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สภาพบ้านเมืองในช่วงเวลาหลังสงครามเหลือแค่เพียงเศษซาก เปรียบเทียบกับการเซ็ตค่าประเทศเป็นศูนย์ใหม่อีกครั้ง แต่ปรากฏว่าญี่ปุ่นยังต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากสัตว์ประหลาดน่าเกรงข้าม ก็อดซิลลา ปรากฏตัวขึ้น และเป็นภัยต่อผู้คนที่กำลังหาทางลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ทำให้พวกเขาต้องหาแนวทางจัดการมาเผชิญหน้ากับสัตว์ยักษ์ตัวนี้

 

นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “ทาคาชิ ยามาซะกิ”​ ที่เคยฝากฝั่งในหนังงานสร้างปัง ๆ อย่าง Parasyte ทั้งสองภาค และล่าสุดกับ Ghost Book โดยเรื่องนี้เขารับหน้าที่ทั้งกำกับและเขียนบทหนังเองทั้งหมด ถือว่าเป็นงานสร้างที่ค่อนข้างจัดจ้านและให้ความเคารพต้นฉบับอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้ว่าโครงสร้างเรื่องราวในนั้นจะค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จและอยู่ในเซฟโซนทั่วไปของหนังญี่ปุ่น แต่ก็สามารถบิวท์ขึ้นให้กลายเป็นความยิ่งใหญ่ได้ ดูหนังใหม่

 

Godzilla Minus One เล่าถึงช่วงเวลาที่ใกล้สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นนักบินกามิกาเซ่ โคอิจิ ชิกิชิมะ ได้นำเครื่องบินลงจอดที่ฐานทัพญี่ปุ่นบนเกาะโอโดะเพราะปัญหาทางเทคนิค ทว่าความจริงแล้วชิกิชิมะกลัวตาย และพยายามจะหนีทัพ โดยในคืนนั้นก็ได้มีสิ่งมีชีวิตคล้ายไดโนเสาร์ขนาดใหญ่เข้าโจมตีกองทหารรักษาการณ์บนเกาะที่ชิกิชิมะอยู่ ซึ่งชิกิชิมะดันเป็นผู้รอดชีวิตไม่กี่คนบนเกาะนั้น หลังสิ้นสุดสงคราม ชิกิชิมะก็กลับมาที่บ้าน และก็ได้อุปการะโนริโกะ โออิชิ หญิงสาวที่พ่อแม่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด พร้อมด้วยทารกกำพร้าอากิโกะ ซึ่งโนริโกะช่วยเหลือไว้ โดยชิกิชิมะ ก็ได้งานใหม่เป็นคนเก็บกวาดทุ่นระเบิดจากสงครามโลกครั้งที่สอง

 

Godzilla ในภาคนี้คือการเปลี่ยนผ่านจากชุดยาง มาเป็น CG เต็มรูปแบบครั้งแรกของญี่ปุ่น โดยผู้กำกับทาคาชิ ยามาซากิ ที่พ่วงตำแหน่งผู้กำกับสเปชียลเอฟเฟกต์ด้วยอีกที ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ได้รับคำชมมหาศาลในหนังเรื่องนี้ เพราะแม้ว่าจะตัดเมืองปลอมกับชุดยางออกไป แต่ Godzilla ก็มีชีวิตชีวามากกว่าเดิม ยิ่งฉากที่แหวกว่ายผิวน้ำ และยืนตระหง่านกลางเมืองก็ทำให้เรารู้เลยว่านี่คือการเพิ่มจิตวิญญาณให้ไคจูตัวนี้มันมีชีวิตมากขึ้น

 

สิ่งหนึ่งที่แว่บเข้ามาระหว่างที่กำลังดูหนังเรื่องนี้ เพราะมันชวนทำให้นึกถึงหนังตัวเต็งรางวัลออสการ์ปีนี้ อย่าง Oppenheimer ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน เพราะจังหวะในการร้อยเรียงของ Godzilla Minus One ค่อนข้างขีงขังได้ดีเทียบกับหนังฮอลลิวูดเรื่องดังกล่าว ทางหากว่าฝั่งนู้นมี Oppenheimer เป็นดาวเด่น ฝั่งญี่ปุ่นก็ต้องยกให้ Godzilla Minus One เรื่องนี้นี่แหละที่เทียบชั้นกันได้แบบสบาย ๆ

 

แม้ว่าจะเป็นการดูหนังแบบย้อมสีเป็นขาวดำ แต่กลายเป็นสิ่งที่น่าหลงใหล ๆ มาในหนังเรื่องนี้ก็คือการถ่ายภาพของช่างภาพชื่อดัง “โคโซะ ชิบาซะกิ” (จากหนังชุด Always) ที่ยังคงจัดการและลำเรียงภาพออกมาได้อย่างทรงพลัง โดยเฉพาะการถ่ายทอดผ่านช่วงยุคสมัยแบบพีเรียด ที่น่าจะเป็นหนึ่งในงานถนัดของช่างภาพผู้นี้ ถึงจะถูกย้อมเอาสีออกไป แต่กลับเติมมนต์ขลังความเป็นหนังญี่ปุ่นยุคภาพขาวดำได้อย่างบรรจงสร้าง

 

บทภาพยนตร์ที่เนี้ยบแน่นผสานเรื่องสองส่วนได้ลงตัวอย่างไร้ที่ติ ความจริงถ้าจะมองให้ละเอียดเรื่องนี้สามารถแบ่งเรื่องเล่าออกเป็นสองเรื่องได้หนึ่งก็แน่นอนนี่คืองานเอพิคหายนะโลกจากการโจมตีของสัตว์ประหลาดยักษ์คือก็อดซิลลา สองคืองานดราม่าที่เล่าเรื่องของบาดแผลจากสงครามทั้งภาพใหญ่และภาพเล็กที่เหมือนเป็นงานแอนตี้สงครามเล็กๆเมื่อเห็นมุมมองบางอย่างที่มีต่อสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นเป็นผู้รุกราน  แล้วหนังจับเอาสองส่วนนี้มาเล่าด้วยกันได้อย่างกลมกล่อมจนอาจเรียกได้ว่าไร้ที่ติก็คงไม่กระดากเพราะการเชื่อมโยงเรื่องเข้าหากันทั้งที่เหตุและผลไปคนละทาง 

 

นั่นคือไม่รู้ว่าก็อดซิลลามาจากไหนและทำไมต้องโจมตีโตเกียวเพราะหนังเลือกไม่ไปทางนั้นหรืออาจเรียกได้ว่าไม่ปูพื้นฐานทางก็อดซิลลาเลยก็คงใช่  แต่สิ่งนั้นกลับถูกลบเลือนไปด้วยการเล่าเรื่องของบาดแผลจากสงครามและการฟื้นฟูทั้งบ้านเมืองและสภาพจิตใจทั้งในองค์รวมและทางส่วนบุคคล  แล้วให้สองเรื่องทำหน้าที่ต่างกันแต่ไปด้วยกันได้อย่างสุดลงตัวโดยให้เรื่องของก็อดซิลลาถล่มเมืองมากระตุ้นอะดรีนาลีนแล้วให้เรื่องดราม่ามาจับหัวใจได้อย่างเนี้ยบ

 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์


Godzilla Minus One ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังก็อดซิลลา จากฝีมือของต้นฉบับแท้ ๆ ของญี่ปุ่น ที่สร้างมาตรฐานมาสเตอร์พีชขึ้นมาได้อีกครั้ง หลาย ๆ องค์ประกอบเป็นความสมบูรณ์แบบที่ชวนลงตัวดี เนื้อหาของหนังสอดแทรกเกร็ดประวัติศาสตร์เข้าไปอย่างมีชั้นเชิง ซ้ำยังใส่ความเป็นสากลได้อย่างน่าทึ่ง นี่คือหนังที่เข้ามาเติมเต็มความหวังในห้วงอารมณ์แห่งความสิ้นหวังอย่างน่าเหลือเชิง และยังเป็นการสดุดีตำนานสัตว์ประหลาดที่ให้ความเคารพได้อย่างประทับใจจริง ๆ

 

ท้ายที่สุดแล้ว แม่ว่าญี่ปุ่นจะแพ้สงคราม แม้ว่าหนังจะไม่ได้ฉายในวงกว้าง แต่ Godzilla Minus One ก็ถือเป็นชัยชนะของภาพยนตร์ไคจูยุคใหม่ มันประสบความสำเร็จในการสร้างภาพจำที่แตกต่างจากฉบับฮอลลีวูด ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถสะท้อนไปถึงรากเหง้าดั้งเดิมของราชันสัตว์ประหลาด ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า แม้จะผ่านไปกว่าหกสิบปี แต่ Godzilla ก็ยังคงสามารถดึงดูดผู้คน รวมถึงสร้างความน่าตื่นตาให้โลกภาพยนตร์ได้อยู่เสมอ 2u-hd.com

 

Godzilla Minus One แน่นอนหนังมีความสนุกตามแนวที่เชื่อเถอะว่าดูอีกรอบก็ยังสนุกแถมยังเป็นความสนุกที่มีหัวใจเพราะมิติที่อยู่ข้างหลังจับสัมผัสได้จนมาหมดทั้งหดหู่สะเทือนใจและเห็นใจ  ด้วยงานด้านเทคนิคพิเศษที่เป็นจุดขายในการเนรมิตฉากและจุดขายหลักคือฉากทำลายล้างให้ออกมาอย่างสุดอลังการด้านความบันเทิงทำให้อดเสียดายไม่หายที่ไม่ได้เข้าไปสัมผัสประสบการณ์ภาพที่ตื่นตาและเสียงที่กระหึ่มเร้าใจในโรง  สุดท้ายนี่คือหนังที่สามารถทำให้แฟนรุ่นเก่าได้สนุกไปพร้อมกับการรำลึกความทรงจำแล้วยังสามารถได้ใจคนรุ่นใหม่ที่ว่าหนังก็อดซิลลาก็มาพร้อมกับคุณภาพระดับยอดเยี่ยมทุกทางได้จนต้องดู

 

#ดูหนังใหม่ #GodzillaMinusOne

 

กลับด้านบน

Report this page